พรรคพวกเซเลเซา แซมบ้า เล่นได้งามเป็นบ้า สมราคาของ ‘เต็งหนึ่ง’ ที่จะคว้าแชมป์ บอลโลก ขบวนนี้ ด้วยการอัด เซอร์เบีย ไปแบบเบาะๆ’พอดีคำ’ ด้วยสกอร์ 2-0 รวมทั้งถัดไปคือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมต้องการจะบอก

1. ดู บราซิล เล่นฟุตบอลแล้วสนุกสนาน & เพลิดเพลินใจดี ด้วยการเน้นเกมรุกบุกแหลกพลางโชว์ท่าทางการเล่นที่แพรวพราวน่าตื่นตาตื่นใจดีนัก

 

2. ความจริง พวกเขาควรจะชนะมากกว่านี้ ถ้าหากดูจากจังหวะที่คงจะได้ประตู พวกเขาคงจะกระหน่ำคู่แข่งได้ถึง 5 ประตูด้วยซ้ำ เมื่อครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว โดยมีโอกาสทะลวงตาข่ายมากกว่า 20 ครั้ง เพียงแต่แต่ชอบมาตายในจังหวะสุดท้าย ถือว่าใช้โอกาสอย่างสิ้นเปลืองไปหน่อย

3. อีกจุดคือผู้เล่นแนวรุกยังติดนิสัยพ่อเลี้ยงมากไปนิด

บ่อยที่จ่ายจังหวะแรกจะดีกว่า พวกพี่ๆเขาต้องขอลาก ขอเลื้อย ขอหมุน รวมทั้งขอโชว์สเต็ปสักจังหน่อยก่อนส่ง

ทว่าการใช้ความสามารถเฉพาะบุคคล มันเป็นสไตล์ของพวกบราซิเลี่ยน มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

4. ครึ่งแรก หัวหอกตัวเป้าอย่าง ริชาร์ลิสัน เสมือนถูกเอเลี่ยนลักพาตัวไป ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ เหมือนกันกับช่วงต้นครึ่งหลังจนกระทั่งหมิ่นเหม่ต่อการถูกเปลี่ยนตัวออกยิ่งนัก

ทันใด…โผล่ออกมากระทุ้งประตูนำ 1-0 ซะอย่างนั้น

ส่วนประตู 2-0 ที่เขากระดกบอลขึ้น ก่อนกระโดดฟาดเข้าไปตุงตาข่ายในท่ากงจักรนรก ใครไม่ได้มองเห็น ถือว่าพลาด

สำหรับผม นี่คือประตูดีรวมทั้งสะเด่าที่สุดของฟุตบอลโลก 2022 นับตั้งแต่นัดเปิดสนามเลยทีเดียว

5. เพียงแค่เกมแรก บราซิล แสดงแสนยานุภาพด้วยการใช้ผู้เล่นในหน่วยล่าสังหารไปแทบครบทุกคนอันประกอบด้วย เนย์มาร์, ริชาร์ลิสัน, ราฟินญ่า, วินิซิอุส เจอาร์, โรดรีโก้, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ รวมทั้งอันโตนี่

ขาดเพียงแค่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เอ๊ย! ขาดเพียงแค่ เปโดร เพียงแต่คนเดียวที่ไม่ได้ลงสนาม

10 ทีมเต็งแชมป์ บอลโลก 2022 จากกูรูต่างประเทศ

ใครจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

• อันดับ 10. เดนมาร์ก

เจ้าของผลงานเข้ารอบรองชนะฟุตบอลยูโรป 2020 ที่ผ่านมา รวมทั้งเป็นชาติลำดับที่ 2 ของโลกที่การันตีได้สิทธิ์เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งนี้ เดนมาร์ก แม้ว่าจะไม่มีซูเปอร์สตาร์แต่เล่นด้วยระบบทีมที่ดี เหนียวแน่นแพ้ยากจนกระทั่งเป็นที่จับตาว่าจะเป็นม้ามืดในเวิลด์คัพครั้งนี้ เดนมาร์กอยู่ร่วมสายกับ ฝรั่งเศส, ตูนิเซีย รวมทั้งเปรู

• อันดับ 9. เนเธอร์แลนด์

อีกหนึ่งยอดเยี่ยมทีมที่เคยทะลุเข้าชิงแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 3 สมัย แต่โชคร้ายยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกหากแม้แต่ครั้งเดียว เนเธอร์แลนด์ชุดนี้ผสมผสานดาวรุ่งรวมทั้งแข้งรุ่นเก๋าอย่างลงตัว แถมยังมี หลุยส์ ฟาน กัล ที่ปรึกษาจอมปรัชญาเป็นผู้นำที่สำคัญ เนเธอร์แลนด์อยู่สายไม่หนักโดยมีเพื่อนร่วมสายอย่าง กาตาร์, เซเนกัล รวมทั้งเอกวาดอร์

• อันดับ 8. โปรตุเกส

โปรตุเกสชุดนี้ถูกเห็นว่าเป็นชุดที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษก็ว่าได้มีแข้งอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ แฟร์นานเดส, แบร์นาโด้ ซิลวา รวมทั้ง ดิเอโก้ โชต้า สำหรับโปรตุเกสอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้หนักมากร่วมสายกับ กาน่า, อุรุกวัย รวมทั้งเกาหลีใต้

• อันดับ 7. ประเทศเบลเยี่ยม

เจ้าของอันดับ 3 ฟุตบอลโลกสมัยที่แล้ว รวมทั้งกลายเป็นทีมอันดับหนึ่งของโลกตลอดแทบ 4 ปีที่ผ่านมาจากการจัดอันดับของฟีฟ่า แต่ว่าล่าสุดตกมาเป็นอันดับ 2 โดยถูกบราซิลแซงหน้าขึ้นไป สำหรับประเทศเบลเยี่ยมมีสตาร์ดังอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู รวมทั้งเอแด็ง อาซาร์ อยู่ร่วมสายกับโครเอเชีย, แคนาดา รวมทั้งโมร็อกโก

• อันดับ 6. เยอรมัน

หนึ่งในทีมที่มาตรฐานสูงที่สุดรวมทั้งเคยเข้าชิงฟุตบอลโลกมากสมัยที่สุด แชมป์โลกครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 สำหรับเยอรมันชุดนี้ผสมผสานผู้เล่นตัวเก๋ารวมทั้งดาวรุ่งฝีเท้าดี ภายใต้ที่ปรึกษายอดฝีมืออย่างฮันซี่ ฟลิค เยอรมันอยู่ร่วมสายกับ ประเทศสเปน, ญี่ปุ่น รวมทั้งคอสตาริก้า

• อันดับ 5. อาร์เจนติน่า

เจ้าของแชมป์โคปา อเมริกาสมัยล่าสุด รวมทั้งอดีตรองแชมป์โลกปี 2014 โดยแพ้ให้เยอรมันนัดชิง สิ่งที่น่าจับตามองก็คือนี่อาจเป็นการเล่นทีมชาติครั้งสุดท้ายของลิโอเนล เมสซี่ก็เป็นได้ อาร์เจนติน่า อยู่ร่วมสายกับ ซาอุดิอาระเบีย, โปแลนด์ รวมทั้งเม็กซิโก

• อันดับ 4. ประเทศสเปน

อดีตแชมป์โลกปี 2010 ที่ระยะหลังมาตรฐานดูตกลงไปหลังไร้ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์อย่าง อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดส, เชส ฟาเบรกาส, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาบิด บีญ่า รวมทั้งชาบี อลอนโซ่ อย่างไรก็ตามประเทศสเปนยุคใหม่มีดาวรุ่งฝีเท้าดีที่รอวันฉายแสงทั้งยัง เปดรี้, กาบรี้ สองแข้งจากบาร์ซ่า มิเกล ออยาร์ซาบาล จากเรอัล โซเซียดัด รวมทั้งเคราร์ด โมเรโน่ จากบียาร์เรอัล ประเทศสเปนอยู่ร่วมสายกับ เยอรมัน, ญี่ปุ่น รวมทั้งคอสตาริก้า

• อันดับ 3. อังกฤษ

หนึ่งในทีมที่ถูกตั้งความหวังไว้สูงทุกหนรวมทั้งดูประหนึ่งว่าคราวนี้จะใกล้เคียงที่สุดหลังจากพึ่งคว้ารองแชมป์ยูโร 2020 มาครองได้ รวมทั้งฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วก็ทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะมาแล้วนับว่าเป็นยุคที่มีผลงานที่จับต้องได้ อังกฤษร่วมสายกับ อิหร่าน, สหรัฐฯ รวมทั้งเวลส์

• อันดับ 2. ฝรั่งเศส

แชมป์เก่าฝรั่งเศสถูกยกให้เป็นเต็ง 2 ซึ่งดูจากขุมกำลังก็ถือว่ายังแข็งแกร่งรวมทั้งมีผู้เล่นตัวหลักจากชุดคว้าแชมป์โลกครั้งที่แล้วเยอะมากแนวรุกมีทั้งยัง คาริม เบนเซม่า, คีเรียน เอ็มบัปเป้ รวมทั้งอุสมาน เดมเบเล่ กองกลางมีปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ฝรั่งเศสอยู่ร่วมสายกับ เดนมาร์ก, ตูนีเซีย รวมทั้งเปรู ซึ่งถือว่าไม่หนักเลยคงจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่ามักตกรอบแรกอย่างที่เคยประสบมาแล้ว

• อันดับ 1. บราซิล

เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัยซึ่งมากที่สุดเหนือทุกทีม ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์โซนอเมริกาใต้ด้วยฟอร์มที่ดีนี้เองทำให้ทีมแซมบ้าก้าวขึ้นมายึดหมายเลขหนึ่งของโลกแทนที่ประเทศเบลเยี่ยมได้สำเร็จ บราซิลจะอยู่ร่วมสายกับ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, เซอร์เบีย รวมทั้งแคเมอรูน